(15 มกราคม 2565) จากปัญหา “หมูแพง” มีรายงานว่า ตั้งแต่ราคาเนื้อหมูแพงสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 200 – 220 บาท ประชาชนส่วนใหญ่จึงหันมาบริโภคเนื้อปลาแทนเพราะราคาถูกกว่าเนื้อหมู

โดยเฉพาะปลานิลราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 70-80 บาทเท่านั้น ทำให้ตลาดขายปลาคึกคักมากขึ้น ซึ่งปลากระชังที่เลี้ยงไว้ส่วนใหญ่จะเป็นปลานิลและปลาทับทิม หลังจากที่ราคาเนื้อหมูแพงสูงขึ้น ทำให้คนส่วนใหญ่ได้หันมาซื้อปลานิลไปประกอบอาหารกันมากขึ้น เพราะยังขายในราคาถูกกว่าเนื้อหมูหลายเท่าตัว

แถมเนื้อปลายังมีประโยชน์ทางโภชนาการหลายอย่าง ทำให้ปลากระชังที่ตนเองเลี้ยงไว้ขายดี มีพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดพิมาย มารับซื้อปลานิลและปลาทับทิมไปขายวันละกว่า 200 กิโลกรัมจนปลานิลในกระชังโตไม่ทัน

อีกทั้งในช่วงนี้ ลูกปลานิลก็เริ่มจะขาดตลาดแล้ว ผู้เลี้ยงปลากระชังส่วนใหญ่ต่างสั่งซื้อลูกปลานิลไปเลี้ยงกันเป็นจำนวนมาก