
ประภัตร ลั่นเปลี่ยนเกษตรกรไทยสู่ยุคใหม่พ้นยากจน ลุยโครงการโคเนื้อสร้างชาติ เฟสแรก 2 แสนตัว เลี้ยง 4 เดือนส่งขายจีนรับไม่อั้น สร้างรายได้เร่งด่วนแก้วิกฤติแล้ง
29 สิงหาคม 2562 ประภัตร ดันกรมการข้าว ผลิตข้าวปลูกพันธุ์ดีปีละ 2 แสนตันป้องชาวนาโดนโขกราคาแถมพันธุ์ปลอมปน จี้รื้อระบบองค์การสะพานปลา ทำแล้วหลวงรวย เกษตรกรรวย อย่าทำจนไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนพนักงาน
นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าในเร็ว ๆ นี้จะเสนอโครงการโคเนื้อสร้างชาติ สร้างรายได้เร่งด่วนให้เกษตรกรระยะเวลาเลี้ยงโคขุน 4 เดือนเพื่อส่งขายจีน ขณะนี้ตลาดจีนมีความต้องการโคเนื้อมีชีวิตอีกมากอย่างไม่จำกัด หากไทยสามารถพัฒนายกระดับศักยภาพการเลี้ยงโคเนื้อได้สำเร็จ จะเป็นฝันที่กลายเป็นจริง ทำให้เกษตรกรพ้นยากจนและมีอาชีพมั่นคงขึ้น ความเป็นอยู่ดีขึ้นได้ ซึ่งตนมีความตั้งใจจริงแก้ปัญหาการผลิตภาคเกษตรทั้งระบบที่มีตลาดแน่นอน เพื่อปรับเปลี่ยนเป็นเกษตรกรยุคใหม่
โครงการโคเนื้อสร้างชาติ จะสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรได้รวดเร็ว ตามข้อห่วงใยของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้ทุกหน่วยงานช่วยเหลือเกษตรกรให้มีโครงการที่เพิ่มรายได้มากขึ้นเสริมจากโครงการจ้างแรงงาน ปลูกพืชใช้น้ำน้อย เพราะจากภาวะฝนน้อยฝนทิ้งช่วงในปีนี้เกษตรกรประสบปัญหาการเพาะปลูกข้าว รวมทั้งพืชเศรษฐกิจเสียหายและทุกภูมิภาคยังเผญิชภาวะสถานการณ์น้ำน้อยต่อไป

โดยโครงการนี้ให้เกษตรกรเลี้ยงครัวเรือนละ 5 ตัว และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธกส.)ได้เตรียมเขียนแผนโครงการไว้แล้วเพราะมีตลาดจีนรองรับโคเนื้อมีชีวิตจากไทยได้อีกมากปีละหลายสิบล้านตัว จึงพร้อมให้กู้ดอกเบี้ยต่ำไม่เกินร้อยละ 1 ซึ่งรัฐบาลช่วยชดเชยดอกเบี้ยให้ด้วย วงเงินกู้ครัวเรือนละ 2 แสนบาท จะเริ่มเฟสแรก 1 แสนตัว กรอบวงเงินกู้ 5 พันล้านบาท เข้าครม.โดยเร็ว
ได้สั่งการปศุสัตว์ทุกจังหวัด เร่งสำรวจปริมาณโค ในแต่ละพื้นที่ให้ดูลูกโคพร้อมที่จะขุน อายุ 1 – 2 ปี น้ำหนัก 250 กก.มีจำนวนเท่าไหร่ และเกษตรกรที่ต้องการจะเลี้ยง โดยได้ให้ตั้งเป็นกลุ่มเกษตรกร หรือวิสาหกิจชุมชน ตั้งกลุ่มเพื่อร่วมกันทำอาหารสำหรับเลี้ยงด้วยจะได้ต้นทุนถูกลง และเป็นสูตรของกรมปศุสัตว์ที่ถูกหลักอนามัย ทำให้เร่งอัตราเติบโตได้น้ำหนักถึง 1.5 – 2 กก.ต่อวัน และกรมปศุสัตว์จัดหาเครื่องบดผสมอาหาร เป็นพี่เลี้ยงแนะนำการเลี้ยงให้เกษตรกร ทำแปลงปลูกหญ้า ผสมอาหารจากวัถตุดิบในท้องถิ่น ไม่เลี้ยงแบบปล่อย
พร้อมกับเปิดตลาดกลางซื้อขายโค เพื่อให้เกิดการแข่งขันทั้งเรื่องราคาและพัฒนาการเลี้ยงทุกระดับ ทั้งนี้ได้นำเอกชนเข้ามาวางระบบออนไลน์ปศุสัตว์ทั้งระบบมาทำให้ฟรีโดยรัฐไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลย ซี่งส่วนกลาง และพื้นที่ สามารถกดดูได้ตลอดเวลา จำนวนโค ไก่ สุกร ไข่ไก่ และชนิดอื่น อยู่ที่ไหน ใครเลี้ยง เคลื่อนย้ายขนสัตว์ผ่านด่านเข้าออกทั่วประเทศ จะป้องกันโรคระบาดสัตว์ข้ามพรหมแดน และแก้ข้อครหาจ่ายสินบทเจ้าหน้าที่ด่าน
รมช.เกษตรฯกล่าวว่าเอกชนจากประเทศจีน กำลังมาเซ็นสัญญากับไทยเพราะตลาดจีนยังขาดโคเนื้อหลายสิบล้านตัวต่อปี ซึ่งต้องการซื้อโคมีชีวิตกิโลกรัมละ 100 บาทจากไทย ไปป้อนโรงแปรสภาพเนื้อของจีน มาตั้งที่เมืองสิบสองปันนา มีกำลังการผลิตเนื้อวัว 10 ล้านตันต่อปี ได้ให้เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ ไปดูโรงงาน ดูคอกกักสัตว์ที่ประเทศลาว เพื่อทำแผนงานเสนอตนพรุ่งนี้

“ผมทำจริงจังแก้ปัญหาความยากจน เกษตรกรทุกคนสามารถเลี้ยงโคได้ ถ้าไม่มีน้ำ จะเจาะบาดาลให้ และไม่ใช้หนี้เก่า มาเป็นเกณฑ์ ส่วนตัวเกษตรกรสามารถกู้ธกส.ได้ เพราะมีตลาดรองรับเป็นหลักประกันจึงไม่จำกัดจำนวนเกษตรกร เพราะทุกวันนี้การผลิตโคเนื้อก็ยังไม่พอให้บริโภคในประเทศเราด้วย”นายประภัตร กล่าว
นอกจากนี้ได้สั่งการให้อธิบดีกรมการข้าวคนใหม่ ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพให้เพียงพอกับความต้องการของเกษตรกร จะต้องให้ได้อย่างต่ำปีละ2แสนตัน เพื่อแก้ปัญหาชาวนาโดนโขลกราคาแพง ยังได้พันธุ์ข้าวปลอมปน กว่าจะรู้ก็ช่วงเก็บเกี่ยวแล้ว กรมการข้าวต้องช่วยชาวนาให้ได้เมล็ดพันธุ์ดี ตนได้ให้เอกชนไปวางระบบออนไลน์ ให้กรมการข้าว เพื่อให้เกษตรกรได้กดดูได้ว่าพันธุ์ข้าวนี้ มีเท่าไหร่ ซื้อได้ที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว ราคาเท่านี้ ป้องกันชาวบ้านโดนข้าวพันธุ์ปลอม ปนสารพัด ซึ่งทุกกระสอบต้องตีบาร์โคส เอกชนขายพันธุ์ข้าวปลูก ต้องมาจดทะเบียนให้ถูกต้อง ไม่ให้เกิดปัญหาอย่างปีนี้พันธุ์ข้าวไม่มี ต่อไปทุกศูนย์ข้าวชุมชนจะต้องตื่นตัวมากขึ้น

ทุกอย่างขึ้นโชว์บนออนไลน์ทั้งหมดจะโกหกไม่ได้ ยุคผมทำออนไลน์รู้ปริมาณทุกชนิด ผมเรียกบริษัทมาเอง มาวางระบบไม่เสียตังเลยสักบาททำเพื่อชาติทุกคนต้องตื่นตัวกับผม รวมทั้งได้ตั้งบอร์ดองค์การสะพานปลา แล้วจะเข้าไปรื้อหมด ให้รัฐวิสาหกิจของกระทรวง ทำแล้วหาเงินเข้าหลวงได้ ทำแล้วให้หลวงรวย เกษตรกรรวย เช่นประเทศอื่นๆรัฐต้องมืออาชีพ ไม่ใช่พอสิ้นเดือนไม่มีเงินจะจ่ายเงินเดือนพนักงาน
Cr : คมชัดลึก