วันนี้จะเป็นวันแรกที่โรงพยาบาลศูนย์ 12 แห่ง และโรงพยาบาลที่จัดบริการการแพทย์แผนไทยอีก 7 แห่งทั่วประเทศ เริ่มจ่ายยา “กัญชาทางการแพทย์” ให้ผู้ป่วย หลังจากได้รับมอบยากัญชาสูตรสารสกัด THC สูงจากองค์การเภสัชกรรม
วันที่ 19 ส.ค.2562 โรงพยาบาลศูนย์ 12 แห่ง ที่จะมียากัญชาทางการแพทย์ให้บริการตั้งแต่วันนี้ ได้แก่ 1.รพ.ลำปาง 2.รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก 3.รพ.สวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ 4.รพ.สระบุรี 5.รพ.ราชบุรี 6.รพ.ระยอง 7.รพ.ขอนแก่น 8.รพ.อุดรธานี 9.รพ.บุรีรัมย์ 10.รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี 11.รพ.สุราษฎร์ธานี และ 12.รพ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
นอกจากโรงพยาบาลศูนย์ทั้ง 12 แห่งแล้ว ยังมี โรงพยาบาลที่ให้บริการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน อีก 7 แห่ง ได้แก่ 1.รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี 2.รพ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี 3.รพ.ดอนตูม จ.นครปฐม 4.รพ.เด่นชัย จ.แพร่ 5.รพ.พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร 6.รพ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ และ 7.รพ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ ยาน้ำมันกัญชาที่โรงพยาบาลทั้ง 19 แห่งใช้นั้น ได้รับมอบจากองค์การเภสัชกรรม 4,500 ขวด โดยแบ่งให้กรมการแพทย์ (สถาบันมะเร็งแห่งชาติ) 600 ขวด และโรงพยาบาลศูนย์ 12 แห่ง และโรงพยาบาลด้านการแพทย์แผนไทย 7 แห่ง แห่งละ 350 ขวด ซึ่งประชาชนสามารถขอคำปรึกษาการใช้ยากัญชาได้ที่สายด่วน 1165
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากเริ่มมีการจ่ายยากัญชารักษาโรคใน 19 โรงพยาบาล ทั้งในส่วนของแพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์แผนไทยแล้วจะมีการติดตามผลของการรักษาว่า ใช้ได้ผล หรือได้ผลดีหรือไม่ ถ้าหากว่าใช้ได้ผลดีก็จะผลักดัน เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติและระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทองต่อไป แต่ย้ำว่ายากัญชาที่จะใช้จะต้องเป็นกัญชาทางการแพทย์ หรือ เมดิคัลเกรด และการใช้ต้องขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ว่าจำเป็นต้องใช้เท่านั้น
และในการประชุมเชิงปฏิบัติการการขับเคลื่อนนโยบายกัญชาการแพทย์ หรือ เวิร์กช็อป เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา มีการนำเสนอเรื่องแผนการผลิตยากัญชา ในระยะเร่งด่วนให้ได้ 1 ล้านขวด ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข /โดยช่วงระยะเวลา 6 เดือนแรกจะผลิตได้ประมาณ 3 แสน 5 หมื่น 1พัน ขวด และจากนั้นจะผลิตให้ได้ 1 แสนขวดต่อเดือน
สำหรับยากัญชาในปัจจุบัน มีอยู่ 3 แบบ คือ 1. สารสกัดกัญชาทางแพทย์แผนปัจจุบัน ที่มีสูตร ทีเอชซีเด่น (กล่องแดง) ซีบีดีเด่น (กล่องสีเขียว) และสูตรผสมหนึ่งต่อหนึ่ง (กล่องสีเหลือง) 2.น้ำมันกัญชาที่สกัดด้วยน้ำมันมะพร้าว และ 3.ยาแพทย์แผนไทยที่เห็นชอบแล้ว 16 ตำรับ แต่ยาที่จะเริ่มเข้าสู่ระบบริการทางการแพทย์ก่อนในวันนี้ จะเป็นสูตรสาร ทีเอชซีเด่น (กล่องสีแดง)
และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายอนุทินและผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไป “เปิดคลินิกกัญชาเพื่อรักษาทางการแพทย์” ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งถือเป็นคลินิกกัญชาแห่งแรกของประเทศในระดับโรงพยาบาลศูนย์ มีแพทย์แผนปัจจุบัน 1 คน แพทย์แผนไทย 3 คน มีผู้ป่วยในกลุ่มแผนปัจจุบัน ราว 100 คน แพทย์แผนไทยราว 500 คน
ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้วางระบบการจ่ายยาโดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ โรคที่ได้ประโยชน์และมีงานศึกษาวิจัยสนับสนุน ได้แก่ ลมชัก คลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อแข็ง และอาการปวดประสาทที่รักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล, กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มโรคที่น่าจะมีประโยชน์ในการควบคุมอาการ เช่น พาร์กินสัน อัลไซเมอร์ ปลอกประสาทอักเสบ วิตกกังวล ผู้ป่วยที่ต้องดูแลแบบประคับประคอง และผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย และกลุ่มที่ 3 กลุ่มภาวะที่อาจได้ประโยชน์ในอนาคต
ที่มา : Workpointnews
