จากนาทีนี้เป็นต้นไป คอการเมืองคงต้องลุ้น การตั้งรัฐบาลจะไปตกสูตรไหน ระหว่าง พลังประชารัฐ รวบรวมเสียงข้างมากได้เกินกว่า 126 เสียงแล้วประกาศจัดตั้งรัฐบาล โดยเสนอให้ พรรคร่วมที่ได้ ส.ส.มามากที่สุด รับตำแหน่ง ประธานสภา เพื่อเสนอชื่อนายกฯในสภา แน่นอนว่าขั้วนี้ต้องเสนอชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯเท่านั้น หลังจากได้นายกฯเรียบร้อยแล้วค่อยมาจัดตั้งรัฐบาลกันอีกที

พลังประชารัฐ จะรวมกับ รวมพลังประชาชาติไทย ประชาชนปฏิรูป ชาติพัฒนา ชาติไทยพัฒนา หรือจะมีพรรคเล็กพรรคน้อยอื่นๆไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ต้องจับตาคือ ภูมิใจไทย และ ประชาธิปัตย์ เนื่องจาก เป็นสัดส่วนสำคัญในการตั้งรัฐบาลให้มีเสถียรภาพ อย่างน้อยควรจะมี 250 เสียง
ส่วนขั้ว เพื่อไทย มี อนาคตใหม่ ประชาชาติ เสรีรวมไทย ก็ต้องสะสมจำนวน ส.ส.ให้ได้มากที่สุด คือจำนวนมากกว่า 250 เสียง หรือจะเป็น 376 เสียงเลยยิ่งดี แต่ถ้าไม่ได้ก็ต้องเกาะกลุ่มเอาไว้ เพื่อที่จะต่อรอง ประชาธิปัตย์ และ ภูมิใจไทยให้เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลอีกซีก
มาถึงขั้วตัวแปรที่สำคัญ ประชาธิปัตย์ กับ ภูมิใจไทย 2 พรรคนี้ถ้าจับมือกันเหนียวแน่น จะมีอำนาจการต่อรองเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะจากขั้วไหนก็ตาม
การเมืองจะพลิกโผหรือไม่ขึ้นอยู่กับ 2 พรรคนี้
ที่ต้องไม่ลืมปัจจัยพิเศษในการตั้งรัฐบาล กกต. และ ส.ว.จำนวน 250 เสียง การแจกใบแดงใบเหลือง เป็นปัจจัยที่จะทำให้ ขั้วจัดตั้งรัฐบาล เกิดการเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับ จำนวน ส.ว. 250 เสียง ที่มาจากการสรรหาของ คสช.รอยกมือในสภาอยู่แล้ว
มาสู่เงื่อนไขต่อไป ระหว่าง การจับขั้วการเมืองเสียงข้างมาก คือมีหลายพรรคมารวมกันแล้วได้เสียงข้างมาก กับ พรรคเสียงข้างมาก คือพรรคที่ได้เสียง ส.ส.มาเป็นอันดับหนึ่ง
ตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เสียงข้างมากในสภาที่จะโหวตเลือกนายกฯ ไม่ได้แปลว่ามาจากพรรคการเมืองที่ได้เสียงข้างมาก แต่มาจากหลายพรรคการเมืองก็ได้ จะเป็นขั้วไหนก็ได้ จะมีงูเห่า จะ ตกปลาในอ่าง ก็ได้

อาจจะขัดหูขัดตาแต่ไม่ขัดกฎหมาย
ปัจจัยสุดท้ายคือ อำนาจพิเศษ ตรงนี้มีความสำคัญอย่าลืมว่า พันธกิจของแต่ละพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมาก่อนการเลือกตั้ง มีภารกิจที่แตกต่างกัน อย่างที่รู้ๆกันอยู่ และเป้าหมายของการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็เป็นที่รู้ๆกันอยู่
มีการกำหนดเป้าหมายเอาไว้ชัดเจน
ไม่ว่าเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ หรือกลไกของรัฐ ที่ตั้งขึ้นมา ดังนั้น การประกาศคะแนนอย่างเป็นทางการของ กกต.ให้ได้ ส.ส.ครบร้อยละ 95 เพื่อเปิดประชุมสภาเลือกนายกฯ เป็นประเด็นร้อนที่ต้องติดตามต่อไป
ห้ามกะพริบตา.
ที่มา หมัดเหล็ก Thairath